Inscriptions: เกตเวย์สู่การทําความเข้าใจ Ordinals
เมื่อBitcoinเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกก็ได้ทำให้เกิดระบบที่ปฏิวัติวงการและไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางในการถ่ายโอนมูลค่าความสามารถในการส่งธุรกรรมทางการเงินอย่างปลอดภัยในแบบ Peer-to-peer นี้เป็นนวัตกรรมใหม่และน่าสนใจแต่ขณะเดียวกันก็มีการกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้งถึงโอกาสในการสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ
ปัจจุบัน Ordinals และ Inscriptions เป็นวิธีการจัดเก็บข้อมูลที่นอกเหนือจากธุรกรรมทางการเงินข้อมูลอื่นๆที่เก็บไว้บนบล็อกเชน Bitcoinได้กลายเป็นงานศิลปะดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครหรือที่รู้จักกันในชื่อโทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ (NFT)
บทความนี้จะกล่าวถึงประวัติความเป็นมาหลักการและศักยภาพของ Bitcoin NFT นี่จะเป็นโปรเจ็กต์ที่สำคัญอันดับต่อไปหรือเป็นเพียงกระแสที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆในโลกแห่งนวัตกรรมบล็อกเชนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ขอแนะนําซีรีส์LearnWeb3 WithaExpert (เรียนรู้ Web3 กับบรรดาผู้เชี่ยวชาญ)ของเราใน Bybit Learn โดยเรามุ่งมั่นที่จะทำให้หัวข้อเรื่องยากๆกลายเป็นเรื่องง่ายและให้มุมมองที่ลึกซึ้งจากบรรดาผู้นําอุตสาหกรรมเชิญเข้าร่วมกับเราในตอนที่สามนี้ที่เราได้เชิญผู้จัดการฝ่ายความสัมพันธ์ Daniel Basharimov จากทีม Bybit VIP มาบรรยายแบบเจาะลึกเกี่ยวกับโลกของ Ordinals และ Inscriptions
ทําความเข้าใจเกี่ยวกับ Ordinals
Ordinals เป็นระบบที่มีเอกลักษณ์ในการระบุซาโตชิ (หน่วยที่เล็กที่สุดของ Bitcoin) ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างBitcoin NFTขึ้นผู้ใช้สามารถจารึกข้อมูลเช่นข้อความหรือภาพให้เป็นงานศิลปะดิจิทัลลงในแต่ละซาโตชิได้
Casey Rodarmor เริ่มดำเนินการกับ Ordinals ในปี 2022 หลังจากการอัปเกรดTaprootทําให้การจัดเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้นบนบล็อกเชน Bitcoin โดยOrdinalsเปิดตัวอย่างเป็นทางการบนเมนเน็ตของ Bitcoin เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2023 โดยสามารถใช้สําหรับการสร้างสรรค์งานศิลปะดิจิทัลการยืนยันตัวตนการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของและอื่นๆ Ordinals แตกต่างจาก NFT แบบเก่าที่อยู่ในเลเยอร์หรือแพลตฟอร์มที่แยกกันโดย Ordinals จะถูกฝังลงในฐานของเครือข่าย Bitcoin เพื่อเป็นการกระจายศูนย์ทำให้หายากและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ประเภทของ Ordinals
Ordinals มีระดับความหายากที่แตกต่างกันดังนี้ Common, Uncommon, Rare, Epic, Legendary และ Mythic โดยที่ความหายากจะบ่งบอกถึงความมีเอกลักษณ์และความขาดแคลนของซาโตชิที่ถูกจารึกไว้และขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆเช่นความสูงของบล็อกเวลาที่จารึกและอุปสงค์โดยรวม
Ordinals ทํางานอย่างไร
Ordinals ทําหน้าที่เป็นตัวระบุเฉพาะสําหรับซาโตชิซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของ Bitcoin และถูกกําหนดตามลําดับเวลาโดยที่แต่ละซาโตชิจะถูกขุดบนบล็อกเชน Bitcoin โดยพื้นฐานแล้วซาโตชิแรกที่เคยขุดมีชื่อว่า Ordinal 1 ซาโตชิที่สองคือ Ordinal 2 และเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม Ordinals ไม่ใช่แค่การระบุด้วยตัวเลขเท่านั้นเพราะยังสามารถรวมข้อมูลอื่นๆผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Inscribing (การจารึก) ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถแนบข้อมูลประเภทต่างๆเช่นรูปภาพหรือข้อความไปกับซาโตชิที่เฉพาะเจาะจงได้ฟังก์ชันนี้ช่วยให้สามารถสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลายตั้งแต่ NFT ไปจนถึงโทเค็นมีมและใบรับรอง
การสร้าง Ordinals เกี่ยวข้องกับธุรกรรม Bitcoin พิเศษตามโปรโตคอล Ordinals ธุรกรรมเหล่านี้รวมถึงหมายเลข Ordinal, ข้อมูลการจารึกและที่อยู่ Taproot ของเจ้าของโดย Taproot ช่วยอํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้นบรรดานักขุดจะตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม Ordinal เหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมเหล่านี้รวมอยู่ในบล็อก Bitcoin ซึ่งคล้ายกับธุรกรรมปกติ
Ordinals พร้อมด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะถูกเก็บไว้ในบล็อกเชน Bitcoin ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติการทําธุรกรรมและสามารถเข้าถึงและตรวจสอบโดยใครก็ตามที่ใช้โหนด Bitcoin หรือ Ordinal Explorer การโอน Ordinal จากเจ้าของรายหนึ่งไปสู่อีกรายเกี่ยวข้องกับรายการธุรกรรมเพิ่มเติมเพื่ออัปเดตที่อยู่ Taproot ดังนั้น Ordinals จึงมีความปลอดภัย, ไม่สามารถแก้ไขได้และกระจายอำนาจที่มีอยู่ใน Bitcoin เอง
Inscriptions คืออะไร
Inscriptions ประกอบด้วยเนื้อหาที่กำหนดได้เองซึ่งจัดเก็บไว้ในแต่ละซาโตชิ (ซึ่งเป็นหน่วยสกุลเงิน Bitcoin ที่เล็กที่สุด) โดยใช้เครือข่าย Bitcoin
กระบวนการนี้จะสร้างงานศิลปะดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin (หรือที่เรียกว่า NFT) ซึ่งสามารถถูกจัดเก็บโอนและเทรดบนบล็อกเชน Bitcoin Inscriptions ใช้หลักการ Ordinal ซึ่งจะกําหนดหมายเลข Ordinal ที่ไม่ซ้ำกันให้กับแต่ละซาโตชิตามตําแหน่งในประวัติการทําธุรกรรมเพื่อให้สามารถระบุและติดตามแต่ละซาโตชิได้
Ordinal Inscription แรกถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2022 โดย Casey Rodarmor Inscription นี้ (ซึ่งมีชื่อว่า Inscription #0) เป็นภาพศิลปะพิกเซลของกะโหลกศีรษะขาว-ดําและได้รับการบันทึกไว้อย่างถาวรบนบล็อกเชน Bitcoin
Recursive Inscriptions คืออะไร
คําว่าRecursive Inscriptionsบนบล็อกเชน Bitcoin หมายถึงวิธีการจัดเก็บข้อมูลโดยการเชื่อมโยง Inscription ที่มีอยู่กับ Inscription ใหม่ดังนั้นจึงเป็นการสร้างเครือข่ายของแหล่งข้อมูลที่เชื่อมต่อกันโดยแนวทางนี้มีข้อดีหลายประการสําหรับนักพัฒนานั่นคือช่วยให้สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ได้ทั้งหมดบนบล็อกเชน, อํานวยความสะดวกในการจัดเก็บไฟล์จำนวนมากและช่วยให้สามารถนําสัญญาขั้นสูงไปปรับใช้โดยไม่จําเป็นต้องใช้เทคนิคการเข้ารหัสลับใหม่
ประโยชน์ที่โดดเด่นอีกสองประการก็คือต้นทุนการทําธุรกรรมที่ถูกลงและการลดการทําซ้ำสำหรับที่เก็บข้อมูลซึ่งทําได้โดยการลดปริมาณข้อมูลที่ถูกจารึกไว้บนแต่ละซาโตชิและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของบล็อกเชน Recursive Inscriptions ถูกนำไปใช้โดยโปรเจ็กต์ต่างๆเช่นOnChainMonkeyที่มีชื่อเสียงในแง่การสร้างสรรค์ศิลปะ 3D ที่น่าประทับใจโดยมีขนาดต่ำกว่า 1 KB อีกตัวอย่างหนึ่งที่โดดเด่นคือการใช้ Recursive Inscriptions โดยBrandon Marshallเพื่อทําให้เว็บไซต์ HTML หน้าเดียวของเขาเป็นอมตะบนบล็อกเชน Bitcoin
แม้ว่า Recursive Inscriptions 0tนําเสนอความเป็นไปได้ที่น่าตื่นเต้นสําหรับการจัดเก็บข้อมูลบนบล็อกเชนและการดําเนินธุรกรรมที่มีประสิทธิภาพแต่การนำไปใช้ก็มีความซับซ้อนและท้าทายซึ่งต้องได้รับการจัดการอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการรักษาสมดุลระหว่างการรวมศูนย์และการกระจายศูนย์ภายในระบบนิเวศของ Bitcoin
Inscriptions ทํางานอย่างไร
Inscription สร้างงานศิลปะดิจิทัลเช่นรูปภาพข้อความเสียงและแอปพลิเคชันที่สามารถจัดเก็บและถ่ายโอนได้โดยกลายเป็นวิธีการพิมพ์ข้อมูลลงบนบล็อกเชน Bitcoin หรือการเพิ่มเลเยอร์ข้อมูลไปยังหน่วยเฉพาะของ Bitcoin ทั้งนี้ Bitcoin Inscriptions นั้นแตกต่างจากแพลตฟอร์มบล็อกเชนอื่นๆตรงที่อาศัยไซด์เชนหรือโทเค็นแยกต่างหากแต่ใช้พยานของธุรกรรม Bitcoin เพื่อฝังข้อมูลที่ต้องการแทน
การ Inscribe หรือจารึกอาจเป็นกระบวนการทางเทคนิคที่เริ่มต้นด้วยการติดตั้งBitcoin Coreแล้วติดตั้งไคลเอ็นต์ “ord” จากนั้นจึงให้คำมั่นและเปิดเผยธุรกรรมการพัฒนาเครื่องมือ Inscription ทําให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงกระบวนการได้มากขึ้นแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่ายเหล่านี้ช่วยให้การสร้างและแลกเปลี่ยน Inscriptions บนเครือข่าย Bitcoin ง่ายขึ้นและช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและจารึกงานศิลปะดิจิทัลได้อย่างง่ายดายโดยใช้อินเทอร์เฟซที่เขียนโค้ดน้อยหรือไม่ต้องมีโค้ดเลยเพื่อรองรับสภาพแวดล้อมที่ใช้งานง่ายและเปิดรับคนทุกกลุ่มภายในระบบนิเวศของ Bitcoin
อนาคตของ Inscriptions
Inscriptions ได้กระตุ้นบทสนทนาว่าจะสามารถทําหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มในการแสดงออกซึ่งความคิดสร้างสรรค์การสร้างตัวตนและการยืนยันความเป็นเจ้าของบนเครือข่าย Bitcoin ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตามสมาชิกภายในชุมชนยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันผู้ที่ชื่นชอบบางคนมองว่า Inscription เป็นช่องทางที่ดีในการขยายฟังก์ชันการทํางานและผลกระทบทางวัฒนธรรมของ Bitcoin ในอีกด้านหนึ่งผู้ที่ยังไม่เชื่อมั่นใน Inscription ก็แสดงถึงความกังวลเกี่ยวกับข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นหรือตั้งคําถามถึงคุณค่าและประโยชน์ของ Inscriptions การถกเถียงในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่ประเด็นต่างๆเช่นประสิทธิภาพของพื้นที่บล็อกและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความสามารถในการแลกเปลี่ยนได้ของ Bitcoin
เมื่อมองไปข้างหน้าอนาคตของ Bitcoin Inscriptions ยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างไรก็ตามสิ่งนี้อาจเปิดโอกาสความเป็นไปได้สําหรับนวัตกรรมและการทดลองภายในโปรโตคอล Bitcoin จากรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2023 โดยหน่วยวิจัยของ Galaxy Digital ระบุว่าตลาด Bitcoin NFT ที่สร้างขึ้นโดย Inscriptions อาจสูงถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 ซึ่งนับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญของปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นนี้อย่างไรก็ตามแม้จะมีศักยภาพสูงแต่การเติบโตของตลาดนี้อาจเผชิญกับความท้าทายซึ่งรวมถึงอุปสรรคในด้านเทคนิคและกฎระเบียบ
Daniel Basharimov ของ Bybit ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิเคราะห์ของ Galaxy Digital ว่ารายงานดังกล่าวนําเสนอการคาดการณ์แบบต่างๆเกี่ยวกับตลาด Bitcoin NFT โดยมีตัวเลขการคาดการณ์อย่างระมัดระวังอยู่ที่ 1,500 ล้านดอลลาร์ในภาวะตลาดซบเซาและการคาดการณ์เชิงบวกที่ 10,000 ล้านดอลลาร์หาก Bitcoin NFT สามารถแข่งขันกับ Ethereum และบล็อกเชนอื่นๆและแนะนํายูสเคสใหม่ๆได้รายงานฉบับนี้เน้นถึงอิทธิพลของผู้เล่น NFT รายสำคัญและโครงสร้างพื้นฐานที่มีการพัฒนาในการคาดการณ์เหล่านี้ทั้งนี้ตลาด NFT มีความผันผวนในแง่ปริมาณการเทรดและกิจกรรมโดยมีการเทรดสูงสุดในช่วงต้นปี 2023 ตามมาด้วยแนวโน้มที่ลดลง
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แต่ความสนใจใน NFT โดยเฉพาะอย่างยิ่ง NFT ระดับพรีเมียมยังคงแข็งแกร่งประสิทธิภาพของตลาดในอนาคตจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆเช่นแนวโน้มตลาดการพัฒนาเทคโนโลยีและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้โดยการส่งผลซึ่งกันและกันระหว่าง Ethereum กับ Bitcoin NFT นั้นมีความสําคัญมาก
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
ในส่วนต่อไปนี้เราจะเจาะลึกเกี่ยวกับความซับซ้อนและศักยภาพของ Bitcoin Inscription ด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก Basharimov ที่ได้คำนึงถึงความท้าทายและอนาคตที่สดใสของเทคโนโลยีนี้
ประเด็นด้านประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับขนาดของเครือข่าย: ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงของ “Blockchain Bloat” จาก Inscription ซึ่งอาจชะลอการประมวลผลธุรกรรมและเพิ่มข้อกําหนดการจัดเก็บโหนดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับขนาดของ Bitcoin
ความเสี่ยงต่อการกระจายศูนย์: มีข้อกังวลว่าขนาดของบล็อกเชนที่เพิ่มขึ้นซึ่งได้รับการกระตุ้นจาก Inscriptions อาจขัดขวางไม่ให้แต่ละส่วนสามารถทํางานได้เต็มโหนดเนื่องจากความต้องการในการจัดเก็บและการคํานวณที่เพิ่มขึ้นสถานการณ์นี้มีความเสี่ยงที่การควบคุมเครือข่ายจะถูกยึดครองโดยองค์กรที่อุดมด้วยทรัพยากรซึ่งขัดต่อหลักการพื้นฐานของ Bitcoin ในการกระจายศูนย์
ผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อค่าธรรมเนียมธุรกรรม: การที่ Inscriptions ทําให้พื้นที่บล็อกเชนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นค่าธรรมเนียมการทําธุรกรรมจึงอาจจะเพิ่มขึ้นและทําให้ Bitcoin ดึงดูดการทําธุรกรรมตามปกติน้อยลง
เมื่อมองไปในอนาคตภูมิทัศน์นี้จะถูกกำหนดโดยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีพลวัตของตลาดและความท้าทายต่างๆที่จะเกิดขึ้น
การเติบโตทางเทคโนโลยีและการพัฒนาระบบนิเวศ: ระบบนิเวศของ Ordinals กําลังเผชิญกับการขยายตัวอย่างมีนัยสําคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของผลงานสะสมดิจิทัลโดยได้รับการขับเคลื่อนจากการพัฒนาใหม่ๆในเทคโนโลยีการจารึกภาพและการเปิดตัววอลเล็ตเฉพาะและบริการต่างๆที่ได้รับการปรับแต่งสําหรับสินทรัพย์เหล่านี้ตัวอย่างเช่น Xverse, Hiro Wallet และ UniSat Wallet นําเสนอฟีเจอร์ต่างๆที่คล้ายกับ MetaMask ของ Ethereum ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่การจัดการสินทรัพย์เหล่านี้ที่ใช้งานง่ายขึ้นนอกจากนี้แอปพลิเคชันที่เป็นนวัตกรรมเช่นการใช้ Ordinals สําหรับหลักประกันเงินกู้กําลังขยายขอบเขตการใช้งานภายในกรอบการทำงานของ Bitcoin
พลวัตของตลาด: Bitcoin Ordinals ซึ่งเปิดตัวในช่วงที่ตลาดคริปโตซบเซาได้รับความสนใจและมีกิจกรรมมากมายโดยเฉพาะในการมีส่วนร่วมและการสร้างสรรค์ของผู้ใช้ทั้งนี้ระดับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้แม้ว่าจะน้อยกว่าบนเครือข่ายอย่าง Ethereum, Solana และ Polygon ก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงความสนใจที่สูงซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพในการขยายตัวในอนาคตและการเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาด NFT ในวงกว้าง
การปรับให้เข้ากับการอัปเดตของ Bitcoin Core:การอัปเดต Bitcoin Core ที่กําลังจะเกิดขึ้นทําให้เกิดอุปสรรคที่สําคัญต่อ Ordinals ซึ่งอาจขัดขวางการดำเนินการของ Ordinals และของโทเค็น BRC-20การอัปเดตนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ที่โทเค็นเหล่านี้ใช้ประโยชน์อยู่ในขณะนี้ซึ่งส่งผลต่อฟังก์ชันการทํางานของโทเค็นในบล็อกเชน Bitcoin เหตุการณ์นี้ทำให้ระบบนิเวศ Ordinals จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงโปรโตคอลหลักโดยเน้นที่ความเสี่ยงของการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆบนเครือข่าย Bitcoin ที่มีมานานแล้วแม้จะมีความก้าวหน้าและประโยชน์ทางเทคโนโลยีแต่ระบบนิเวศ Ordinals ก็ต้องเผชิญความท้าทายที่สําคัญจากแง่มุมที่เปลี่ยนแปลงไปเหล่านี้ของโปรโตคอล Bitcoin และสภาวะตลาดเนื่องจากอนาคตขึ้นอยู่กับนวัตกรรมและความสามารถในการปรับตัว
Bybit Inscriptions Marketplace
Bybit จะเปิดตัวInscription Marketplaceที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะซึ่งจะมุ่งเน้นที่การเทรดสินทรัพย์BRC-20ผ่านBybit Walletมาร์เก็ตเพลสนี้จะรวมDAppsที่เข้ากันได้กับEVMที่หลากหลายซึ่งช่วยเพิ่มการโต้ตอบของผู้ใช้นอกจากนี้ Bybit ยังมีแผนที่จะขยายข้อเสนอของบริษัทโดยค่อยๆบูรณาการมาร์เก็ตเพลสจากโปรโตคอลต่างๆเข้าด้วยกันทําให้ผู้ใช้มีตัวเลือกการเทรดที่กว้างขึ้นภายในระบบนิเวศของ Bybit Wallet โปรดติดตามการพัฒนาที่น่าสนใจนี้โดยติดตามหน้า Bybit Web3 X (Twitter)ที่เป็นทางการของเราและติดตาม AMA ของเราผ่านทาง Lorenzo จาก UniSat และ Dirk จาก Bybit Web3 ในวันที่ 29 มกราคม 2024 เวลา 20.00 น.
บทสรุป
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนรวมทั้ง Daniel Basharimov ของ Bybit มองว่า Inscriptions ทีใช้ระบบ Ordinal เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีศักยภาพสําหรับยุคใหม่แห่งความคิดสร้างสรรค์และความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลการรวมโทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ (NFT) เข้ากับหัวใจสำคัญของ Bitcoin อาจมอบการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ในแง่ของความปลอดภัยการกระจายศูนย์และความเป็นไปได้ที่ไร้ขอบเขตบรรดาผู้เชี่ยวชาญแนะนําว่าไม่ว่า Inscriptions จะกลายเป็นแนวโน้มที่ยั่งยืนหรือเป็นเพียงนวัตกรรมในช่วงสั้นๆแต่ก็ได้มอบโอกาสในการเจาะลึกขอบเขตการสร้างสรรค์ใหม่ๆภายในโครงสร้างที่แข็งแกร่งของ Bitcoin