ค่าธรรมเนียม Bybit ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเทรดคริปโต [อัปเดต]

ตลาดคริปโตเคอเรนซีได้เติบโตจากตลาดใหม่และไม่มีสภาพคล่องมากนักไปสู่กลุ่มสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยตลาดเปิดให้เทรดตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์และการเข้าร่วมค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องหาแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนก่อน

แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีเป็นตลาดที่ช่วยให้คุณสามารถซื้อและขายคริปโตเคอเรนซีได้ในราคาตลาด ซึ่งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนนำคำสั่งซื้อและขายมารวมกันเพื่อให้คุณสามารถซื้อและขายได้ตลอดเวลา การใช้แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนนั้นเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่าย ซึ่งขึ้นอยู่กับความถี่ที่คุณเทรดและประเภทของสินทรัพย์ที่เทรด เราจะพาคุณไปดูทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการเทรดต่างๆ บน Bybit เพื่อให้คุณสามารถเทรดโดยทราบอย่างชัดเจนเกี่ยวกับต้นทุนของคุณ

ค่าธรรมเนียมการเทรดคืออะไร 

ค่าธรรมเนียมการเทรดคือค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมที่คุณจะถูกเรียกเก็บเมื่อคุณทำการส่งคำสั่งใดๆ ในตลาดแลกเปลี่ยน โดยธุรกรรมแต่ละประเภทอาจมีโครงสร้างต้นทุนของตนเอง ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าสั้นๆ โดยทั่วไปแล้วค่าธรรมเนียมการเทรดคริปโตเคอเรนซีประกอบด้วยค่าใช้จ่ายหลายประเภท

ซึ่งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่จะสร้างค่าคอมมิชชันจากปริมาณการเทรด อย่างไรก็ตามค่าธรรมเนียมไม่เพียงแต่ใช้กับการเทรดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฝากและถอน ค่าธรรมเนียมการระดมทุน ค่าใช้จ่ายสำหรับมาร์จิ้นและเลเวอเรจ และแม้กระทั่งค่าใช้จ่ายสำหรับสเปรด bid-ask ด้วย ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนมักจะแตกต่างกันตั้งแต่ 0.1% ถึง 1% หรือมากกว่าต่อการเทรด โดยจะแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม ท้ายที่สุดแล้วทั้งหมดนี้จะแตกต่างกันไปตามประเภทของสัญญาการเทรดและนโยบายของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน

Maker และ Taker คืออะไร

มาร์เก็ตเพลสจะจับคู่คำสั่งซื้อและขายใน Order Book ขณะที่ระบบ Maker และ Taker เป็นวิธีการจำแนกคำสั่งเหล่านั้นเพื่อกำหนดค่าธรรมเนียมการเทรด Maker และ Taker จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าจะเพิ่มหรือลดสภาพคล่องใน Order Book

คำว่า "Maker" หมายถึง Market Maker ซึ่งให้สภาพคล่องแก่ตลาด ตัวอย่างเช่น Maker จะเพิ่มความลึกของ Order Book โดยมักจะวางคำสั่งแบบ Limit ที่ไม่ถูกจับคู่ทันที ซึ่งคำสั่งเหล่านี้เปิดโอกาสให้นักเทรดรายอื่นๆ สามารถจับคู่ได้ Market Maker จ่ายค่าธรรมเนียมต่ำกว่า Taker และในบางกรณีอาจได้รับเงินคืนอีกด้วย ตัวอย่างเช่น Bybit เสนอโปรแกรม Market Maker Incentive เพื่อให้นักเทรดได้รับคืนค่าธรรมเนียม Maker Fee สูงสุด 0.015%

ในทางกลับกัน “Taker” ลบสภาพคล่องออกจากตลาด พวกเขาวางคำสั่งแบบ Market เพื่อนำสภาพคล่องออกจาก Order Book ทันที เมื่อคุณส่งคำสั่งที่มีการจับคู่ทันที คุณจะเป็น Taker และคุณจึงต้องจ่ายค่าธรรมเนียม

ผู้เล่น 

ภายในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตใดๆ นักเทรดจะทำหน้าที่เป็นทั้ง Maker หรือ Taker โดย Maker ให้สภาพคล่องและเพิ่มความลึกของตลาดของ Order Book ในขณะที่ Taker แสวงหาและนำสภาพคล่องออกจาก Order Book

ปัจจัยต่างๆ 

เมื่อพูดถึงการพิจารณาว่าคำสั่งนั้นๆ ถือว่าเป็น "Maker" หรือ "Taker" หรือไม่นั้น กุญแจสำคัญอยู่ที่ความฉับไวในการจับคู่คำสั่ง คำสั่ง Market Order จะถูกดำเนินการเป็นคำสั่ง Taker เสมอ แต่คำสั่ง Limit Order อาจถูกดำเนินการเป็นคำสั่ง Maker หรือ Taker ได้ นี่ไม่ใช่เพราะว่าคำสั่ง Limit Order มีความพิเศษใดๆ แต่เนื่องจากเป็นประเภทคำสั่งเดียวที่ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดการซื้อหรือขายทันที โดยที่คำสั่ง Market Order นั้นจะเป็นการจับคู่ทันที 

คำแนะนำ ที่ Bybit คุณอาจเปิดใช้งานคุณสมบัติ Post-Only เพื่อให้แน่ใจว่าคำสั่ง Limit Order จะดำเนินการในฐานะ Maker เท่านั้น

ค่าธรรมเนียมการเทรด Bybit ทำงานอย่างไร

Bybit มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่คุ้มค่าซึ่งเป็นมิตรสำหรับนักเทรด โดยโปรแกรม VIP ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่จะปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมการเทรดที่มีอยู่สำหรับทั้งตลาดสปอตและอนุพันธ์ ซึ่งนักเทรดจะได้รับสิทธิประโยชน์จากโปรแกรม VIP หรือโปรแกรมรอยัลตี้ของ Bybit

โดยมีรายละเอียดดังนี้

เรียนรู้เพิ่มเติม: ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมและสิทธิประโยชน์สำหรับ Bybit VIP

ค่าธรรมเนียม Maker และ Taker ของ Bybit

Bybit แยกความแตกต่างระหว่างค่าธรรมเนียม Maker และ Taker โดยดูว่าคำสั่งได้รับการจับคู่เร็วเพียงใด คำสั่ง Market Order ซึ่งซื้อหรือขายที่ราคาที่ดีที่สุดในตลาด จะดำเนินการทันทีและเป็นคำสั่ง Taker 

ในทางตรงกันข้าม คำสั่ง Limit Order จะถูกวางไว้ที่ราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และจะดำเนินการเมื่อราคาตลาดเท่ากับหรือดีกว่า Limit ดังนั้นคำสั่ง Limit Order สามารถจำแนกได้ว่าเป็นคำสั่ง Maker หรือ Taker ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคำสั่งเหล่านั้นจะได้รับการจับคู่เมื่อใด

• ค่าธรรมเนียม Taker Fee มูลค่าคำสั่ง × อัตราค่าธรรมเนียม Taker Fee

• ค่าธรรมเนียม Maker Fee มูลค่าคำสั่ง × อัตราค่าธรรมเนียม Maker Fee

มูลค่าคำสั่งขึ้นอยู่กับปริมาณสัญญาและราคา การคำนวณยังขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังเทรดสปอต, สัญญา Linear, สัญญา Perpetual หรือสัญญา Inverse ซึ่งเราจะอธิบายด้านล่าง

การคำนวณค่าธรรมเนียมการเทรดสปอตบน Bybit

สูตรคำนวณ

ค่าธรรมเนียมการเทรด = ปริมาณคำสั่งที่จับคู่แล้ว × อัตราค่าธรรมเนียมการเทรด

หากราคา BTC ปัจจุบันอยู่ที่ $40,000 นักเทรดสามารถซื้อหรือขาย 0.5 BTC ด้วย 20,000 USDT

• นักเทรด A ซื้อ 0.5 BTC โดยใช้คำสั่ง Market Order ด้วย USDT

• นักเทรด B ซื้อ 20,000 USDT โดยใช้คำสั่ง Limit Order ด้วย BTC

• ค่าธรรมเนียม Taker Fee สำหรับนักเทรด A = 0.5 × 0.10% = 0.0005 BTC

• ค่าธรรมเนียม Maker Fee สำหรับนักเทรด B = 20,000 × 0.10% = 20 USDT

หลังจากคำสั่งได้รับการจับคู่

นักเทรด A ซื้อ 0.5 BTC ด้วยคำสั่ง Market Order ผลก็คือนักเทรด A จ่ายค่าธรรมเนียม Taker Fee 0.0005 BTC ดังนั้นนักเทรด A จะได้รับ 0.4995 BTC

นักเทรด B ซื้อ 20,000 USDT โดยใช้คำสั่ง Limit Order และมีค่าธรรมเนียม Maker Fee 0.1% ดังนั้นนักเทรด B จะได้รับ 19,980 USDT

การเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการเทรด Spot ระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ

*บัญชีระดับเริ่มต้น

ที่มา: ตัวเลขอย่างเป็นทางการจากแต่ละแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2566

โปรดทราบว่า:

– หน่วยค่าธรรมเนียมการเทรดที่เรียกเก็บจะขึ้นอยู่กับสกุลคริปโตที่ซื้อ

– ไม่มีค่าธรรมเนียมการเทรดสำหรับส่วนคำสั่งที่ไม่ได้จับคู่และคำสั่งที่ยกเลิก

ค่าธรรมเนียม Maker และ Taker Fee สำหรับการเทรดอนุพันธ์บน Bybit

สัญญา Perpetual & Futures

การเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมสัญญา Perpetual ระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ

*บัญชีระดับเริ่มต้น

ที่มา: ตัวเลขอย่างเป็นทางการจากแต่ละแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566

การเปรียบเทียบค่าธรรมเนียม Crypto Options ระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ

ที่มา: ตัวเลขอย่างเป็นทางการจากแต่ละแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต ณ วันที่ 17 มีนาคม 2566

การคำนวณค่าธรรมเนียมการเทรดอนุพันธ์ของ Bybit

สูตรคำนวณ

ค่าธรรมเนียมการเทรด = มูลค่าคำสั่ง × อัตราค่าธรรมเนียมการเทรด

มูลค่าคำสั่ง = ปริมาณ / ราคาที่ทำการจับคู่

ตัวอย่างเช่น นักเทรด A ซื้อสัญญา BTCUSD 10,000 สัญญาโดยใช้คำสั่ง Market Order นักเทรด B ขายสัญญา BTCUSD 10,000 สัญญาโดยใช้ Limit Order หากราคาที่ทำการจับคู่คือ $40,000

• ค่าธรรมเนียม Taker Fee สำหรับนักเทรด A = 10,000/40,000 × 0.06% = 0.00015 BTC

• ค่าธรรมเนียม Maker Fee สำหรับนักเทรด B = 10,000/40,000 × 0.01% = 0.000025 BTC

เมื่อมีการดำเนินการ นักเทรด A จะจ่ายค่าธรรมเนียม Taker Fee 0.00015 BTC นักเทรด B จะจ่ายค่าธรรมเนียม Maker 0.000025 BTC

นอกจากการเปลี่ยนแปลงแล้ว Bybit ยังเสนอโปรแกรม Market Maker Incentive เพื่อรับคืนค่าธรรมเนียม Maker Fee สูงสุด -0.015% อัตราค่าธรรมเนียม Taker Fee จะยังคงกำหนดโดยระดับ VIP ที่เกี่ยวข้อง สำหรับ market maker โปรดดู Institutional Services สำหรับข้อกำหนดและวิธีการสมัคร 

ค่าธรรมเนียมเลเวอเรจ

เลเวอเรจคือการจัดหาเงินทุนโดยใช้เงินทุนที่ยืมไป ซึ่งเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ใช้ในการเพิ่มผลตอบแทนจากเงินทุน นักลงทุนยังใช้เลเวอเรจเพื่อเพิ่มกำลังซื้อในตลาดอย่างมีประสิทธิภาพโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มผลตอบแทน 

คุณจะพบค่าธรรมเนียมเลเวอเรจเมื่อทำการเทรด Leveraged Token หรือก็คือตราสารที่ไม่มีวันที่ชำระราคาโดยทั่วไป ต่อไปนี้คือค่าธรรมเนียมธุรกรรมคริปโตบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Leveraged Token:

• ค่าธรรมเนียมการจองซื้อ: เรียกเก็บเงินเมื่อนักเทรดเลือกที่จะซื้อ Leveraged Token

• ค่าธรรมเนียมการขายคืน: เรียกเก็บเงินเมื่อคุณต้องการขายคืน Leveraged Token

• ค่าธรรมเนียมการจัดการ: เรียกเก็บเงินทุกวันเพื่อจัดการโพสิชันที่ใช้เลเวอเรจ

• ค่าธรรมเนียมการเทรด: เก็บเมื่อซื้อหรือขาย Leveraged Token

• ค่าธรรมเนียมการระดมทุน: จะถูกเรียกเก็บตามอัตราการระดมทุนของสินทรัพย์อ้างอิงของ Leveraged Token และจะปรากฏใน NAV ของ Leveraged Token

ค่าธรรมเนียมการระดมทุนบน Bybit

ค่าธรรมเนียมการระดมทุนทำให้แน่ใจว่าราคาเทรดล่าสุดจะยึดติดกับราคาสปอตทั่วโลก โดยคล้ายกับดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในการเทรดด้วยมาร์จิ้นในสปอต Bybit มีกฎบางอย่างสำหรับค่าธรรมเนียมการระดมทุนซึ่งมีดังต่อไปนี้ 

• หากอัตราการระดมทุนเป็นบวก ผู้ที่ถือโพสิชัน Long จะจ่ายให้กับผู้ที่ถือโพสิชัน Short หากอัตราการระดมทุนเป็นลบ ผู้ที่ถือโพสิชัน Short จะจ่ายให้กับผู้ที่ถือโพสิชัน Long 

• นักเทรดสามารถชำระหรือรับค่าธรรมเนียมการระดมทุนได้ทุกๆ 8 ชั่วโมงหากมีโพสิชันที่เวลา 23.00 น., 07.00 น., และ 15.00 น. 

หมายเหตุ ไม่ใช่ทุกคู่เทรดที่จะมีช่วงเวลาสำหรับค่าธรรมเนียมการระดมทุนมาตรฐานที่ 8 ชั่วโมง คู่เทรดเช่น XEMUSDT, STXUSDT, EGLDUSDT, ENJUSDT, FLOWUSDT, และ SLPUSDT จะมีช่วงเวลาระดมทุนทุกๆ หนึ่งชั่วโมง 

ในภาพหน้าจอข้างต้น ผู้ที่ถือโพสิชัน Long จำเป็นต้องจ่ายอัตราการระดมทุนที่ระบุให้กับผู้ที่ถือโพสิชัน Short ภายในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง

ค่าธรรมเนียมการระดมทุนจะคำนวณได้ดังนี้บน Bybit 

ค่าธรรมเนียมการระดมทุน = มูลค่าโพสิชัน × อัตราการระดมทุน

มูลค่าโพสิชัน = ปริมาณของสัญญา × ราคา Mark Price

ตัวอย่างเช่น นักเทรดถือโพสิชัน Long สัญญา BTCUSD 10,000 สัญญา และราคา Mark Price ถูกตั้งไว้ที่ $8,000 โดยมีอัตราการระดมทุนปัจจุบันที่ 0.0408% (0.000408) ในกรณีนี้

มูลค่าโพสิชัน = 10,000/8,000 = 1.25 BTC 

ค่าธรรมเนียมการระดมทุน = 1.25 BTC × 0.000408 = 0.00051 BTC

เนื่องจากอัตราการระดมทุนเป็นบวก ผู้ที่ถือโพสิชัน Long จะต้องจ่ายให้กับผู้ที่ถือโพสิชัน Short เมื่อใช้ Bybit

วิธีเริ่มต้นใช้งาน 

Bybit นำเสนอฐานความรู้ที่หลากหลายและกว้างขวาง รวมถึงวิดีโอสอนใช้งาน บล็อก และคู่มือวิธีใช้ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เริ่มต้นใช้งานแพลตฟอร์ม นี่คือภาพรวมคร่าวๆ ของวิธีเริ่มต้นเทรดบน Bybit

การยืนยัน KYC บน Bybit

Bybit เสนอกระบวนการยืนยันตัวตน Know Your Customer (KYC) เพื่อความปลอดภัยและการเข้าถึงที่ปลอดภัยมากขึ้นสำหรับฟีเจอร์เพิ่มเติม 

กระบวนการนี้ทำในหลายขั้นตอน ซึ่งประกอบด้วยกลไกการตรวจสอบที่แตกต่างกัน เอกสารอย่างเป็นทางการที่จำเป็น ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน ใบแจ้งยอดธนาคาร หลักฐานแสดงถิ่นที่อยู่ และบิลค่าสาธารณูปโภค เพื่อปลดล็อกขีดจำกัดการถอนสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน ในท้ายที่สุดแล้ว ยิ่งคุณให้ข้อมูลสำหรับกระบวนการตรวจสอบมากเท่าใดคุณก็จะได้รับวงเงินในการถอนสูงขึ้นเท่านั้น 

ตารางต่อไปนี้อธิบายระดับของการยืนยัน KYC (รายบุคคล) ที่ Bybit โปรดคลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับการยืนยัน KYC ทางธุรกิจ

นี่คือขั้นตอนในกระบวนการ KYC

• เปิดบัญชีหรือลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณบน Bybit

• คลิกที่อวาตาร์

ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณและคลิกที่บัญชีและความปลอดภัย จากนั้นคลิกที่ยืนยันตอนนี้ การดำเนินการนี้จะเริ่มต้นกระบวนการสำหรับ KYC เลเวล 1 

• ให้ข้อมูลที่จำเป็นในการยืนยันตัวตนเลเวล 1

1. เลือกประเทศที่ออกบัตรประจำตัวประชาชน/หนังสือเดินทางของคุณ

2. อัปโหลดสำเนาบัตรประชาชนที่สแกนแล้ว 

3. ให้การยืนยันใบหน้าผ่านทางคอมพิวเตอร์ 

ระดับการยืนยัน KYC ของคุณกำหนดขีดจำกัดการถอนสูงสุด คุณสามารถเริ่มต้นที่ขีดจำกัดการถอนที่ 20,000 USDT และเพิ่มขึ้นเป็น 2,000,000 USDT ต่อวัน

ปิดท้าย

Bybit มีแพลตฟอร์มการเทรดที่ชาญฉลาดและใช้งานง่าย ซึ่งมอบวิธีการที่ง่ายดายและเชือถือได้ในการซื้อ ขาย เทรด และรับ APYจากคริปโตที่ Commit ของคุณในแผนการลงทุนของ Bybit การเริ่มต้นใช้งาน Bybit นั้นเป็นเรื่องง่ายหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ KYC สั้นๆ เว็บไซต์และแอปของเราเป็นมิตรกับผู้ใช้และอนุญาตให้เทรดได้ทุกเมื่อ 

เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจโครงสร้างต้นทุนก่อนเริ่มต้น โดยที่ Bybit ใช้รูปแบบของ Maker/Taker ที่เรียบง่ายเพื่อคำนวณค่าธรรมเนียมการเทรดที่ราคาไม่แพง และเพิ่มสภาพคล่องให้กับ Order Book ซึ่งไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการฝาก และค่าธรรมเนียมในการถอนจะเสียน้อยมาก ทั้งค่าธรรมเนียมการเทรดสปอตและอนุพันธ์ขึ้นอยู่กับสูตรคำนวณที่โปร่งใสและคำนวณได้ง่าย

เมื่อคุณเข้าใจโครงสร้างค่าธรรมเนียมแล้ วคุณก็มั่นใจในการส่งคำสั่งซื้อขายบน Bybit ได้ นอกเหนือจากการเลือกที่จะเป็น Market Maker แล้วยังมีวิธีอื่นในการลดจำนวนค่าธรรมเนียมการเทรดที่จะต้องเสียในการเทรดทุกครั้ง ที่ Bybit สิ่งจูงใจเหล่านั้นรวมถึงส่วนลดในรูปแบบของเงินคืนจากการเทรด, ส่วนลด VIP และโปรแกรมรอยัลตี้ โดยที่ศูนย์รางวัล Bybit เต็มไปด้วยรางวัลเพื่อให้คว้า และส่วนที่ดีที่สุดคือการรับรางวัลนั้นเป็นเรื่องง่ายไม่ต่างกับการ "follow" บนโซเชียลมีเดีย